สำหรับมาตรวัดการมีส่วนร่วมนั้น Chapin F
Staut ( อ้างใน
เธียรชัย บูรพชนก, 2532 ) ได้สร้างแนวทางและวิธีการวัดการมีส่วนร่วมทางสังคมโดยใช้หลักและลักษณะการมีส่วนร่วมมากน้อย ซึ่งมีการให้คะแนนมากน้อยต่างกัน โดยถ้าเป็นสมาชิกให้ 1
คะแนน
การเข้าร่วมกิจกรรม 2 คะแนน การออกเงิน 3 คะแนน การเป็นคณะกรรม 4
คะแนน และเป็นประธานให้
5 คะแนน
วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555
รูปแบบของการมีส่วนร่วม
ไพรัตน์ เตชะรินทร์ (2527)
ได้จัดประเภทและรูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาระดับต่างๆ
ดังนี้
1.องค์กรประชาชนที่มีขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ
โดยกลุ่มประชาชนที่สนใจด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม
โดยมีการรวมตัวในกลุ่มขนาดเล็กเพื่อร่วมทำประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น รูปแบบอาสาสมัคร
กลุ่มสตรี กลุ่มออมทรัพย์ ฯลฯ
2.องค์กรประชาชนที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ
โดยมีการจดทะเบียนตามกฎหมายในรูปของสมาคม มูลนิธิ สหกรณ์
ซึ่งจะมีการดำเนินงานตามบทบาทและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3.ตัวแทนบุคคลหรือเอกชนที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการต่างๆ
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ความสำคัญของการมีส่วนร่วม
Hapgood, David (อ้างใน อนงค์ พัฒนจักร,
2535) ได้กล่าวถึงสาระสำคัญของการมีส่วนร่วมไว้ 3 ประการ คือ
1.เป็นการให้การศึกษาแก่ประชาชน
เพื่อให้นำความรู้และข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไปสู่ประชาชนด้วนตนเอง
ถือเป็นการลดช่องว่างในการสื่อสารความเข้าใจและความร่วมมือ ตลอดจนสามารถช่วยให้ประชาชนเลียนแบบ
ดัดแปลงและสร้างสรรค์การพัฒนาด้วยตนเอง
2.เป็นการจัดโครงการพัฒนาเพื่อให้เป็นแบบจำลอง
แบบฝึกหัดแก่ประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตในชนบท
ในรูปแบบการสะท้อนชีวิตที่ใกล้ตัวของประชาชน จนทำให้มองเห็นถึงประโยชน์การมีส่วนร่วม
วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ความหมายของการมีส่วนร่วม
สำหรับแนวคิดการมีส่วนร่วม (Participation )
นั้นมีมานานแล้ว
ถือเป็นหลักการพัฒนาแนวใหม่ที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยมนุษย์
ได้มีนักวิชาการและผู้รู้หลายท่านให้ความหมายไว้ดังนี้
United
Nations ( อ้างใน สุพรชัย
มั่งมีสิทธิ์, 2535 ) ให้ความหมายของการมีส่วนร่วมของประชาชน ว่า เป็นการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
อย่างกระตือรือร้น ทำให้มีพลัง เริ่มตั้งแต่กระบวนการตัดสินใจ เพื่อกำหนดเป้าหมายทางสังคมในการจัดการทรัพยากร
เพื่อให้บรรลุเป้า-หมาย และปฏิบัติตามแผนงานโครงการต่างๆ
ยุวัฒน์
วุฒิเมธี (2524) ให้ความหมายไว้ว่า
เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมาร่วมคิด ริเริ่ม ร่วมพิจารณาในการตัดสินใจ
ร่วมปฏิบัติและร่วมรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ อันมีผลกระทบถึงตัวประชาชนเอง
ซึ่งในการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชนบทนั้น
ผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องยอมรับปรัชญาที่ว่า มนุษย์ทุกคนปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเป็นสุข
ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และต้องยอมรับโดยบริสุทธิ์ใจว่า
มนุษย์นั้นสามารถพัฒนาได้ถ้ามีโอกาส และได้รับการชี้แนะอย่างถูกต้อง
วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555
แนวคิดการมีส่วนร่วม
แนวคิดการมีส่วนร่วมนั้นรัฐเริ่มมีการนำมาใช้เนื่องจากความล้มเหลวของการพัฒนาประเทศในอดีตที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาร่วมรับรู้ ริเริ่ม วางแผนหรือประเมินผล ทำให้ประชาชนเฉยเมยต่อโครงการต่างๆ (ภูมิธรรม เวชยชัย, 2528 ) และไม่มีความรู้ศึกเป็นเจ้าของ ทำให้ผลการพัฒนาที่ผ่านมาไม่ยั่งยืน (ประพนธ์ ปิยรัตน์, 2534 )
วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555
แนวทางสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน
วรวิทย์ อวิรุทธ์วรกุล (2544 : 66) ได้กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้าง
การมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรชุมชนในการพัฒนาชุมชน ดังนี้
7.1 กิจกรรมการพัฒนาใด ๆ
ของชุมชนจะต้องเริ่มจากประชาชนที่จะเป็นผู้ริเริ่มเนื่องจากเป็นผู้รู้ปัญหาของชุมชนและความต้องการของตนเองมากที่สุด
7.2 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดกิจกรรมในการพัฒนาต้องอาศัย
การมีส่วนร่วมของสมาชิกของชุมชน ในรูปองค์กรชุมชน
7.3 ประชาชนควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมในทุกขั้นตอนให้มากที่สุด
7.4 ภาครัฐและภาคเอกชน ควรส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาของประชาชน
เพื่อเพิ่มศักยภาพ พัฒนาขีดความรู้และทักษะในการแก้ไขปัญหาของชุมชนได้
กล่าวโดยสรุปได้ว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้นมีขั้นตอนที่สำคัญ 5 ขั้น คือ
1) การมีส่วนร่วมในการค้นหาสาเหตุของปัญหา
2)
การมีส่วนร่วมในการคิดและเสนอแนวทางการดำเนินงาน
3) การมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม
4) การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์
5) การมีส่วนร่วมในการประเมินผล
วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน
สมเดช สิทธิพงศ์พิทยา (2544 : 25) แบ่งระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็น 6
ระดับ คือ
6.1
การไม่มีส่วนร่วม หมายถึง บุคคลนั้นไม่มีส่วนร่วมเลย
หรืออาจมีส่วนร่วม
โดยถูกบังคับ
6.2 การมีส่วนร่วมน้อยมาก หมายถึง
การมีส่วนร่วมที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจแต่เข้าร่วมเพื่อมุ่งหวังค่าจ้างหรือรางวัลตอบแทน
6.3 การมีส่วนร่วมน้อย หมาย
การร่วมรับทราบการดำเนินงานของโครงการพัฒนาต่าง ๆ
โดยอาจร่วมมือและให้ความสนับสนุนบ้างบางกรณี
6.4 การมีส่วนร่วมปานกลาง หมายถึง
การเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นหรือแสดงปัญหาความต้องการต่อที่ประชุมรวมถึงการถูกสัมภาษณ์
6.5
การมีส่วนร่วมมาก
หมายถึง การเข้าร่วมติดสินใจ รวมทั้งร่วมดำเนินงาน
และประเมินผลโครงการ
วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ขั้นตอนการมีส่วนร่วมของประชาชน
ส่วนของขั้นตอนการมีส่วนร่วมนั้น
Cohen and Uphoff (1977 : 38-40) ได้กล่าวว่าในการทำความเข้าใจกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น จะต้องพิจารณาว่า
5.1 การมีส่วนร่วมนั้นอยู่ในขั้นตอนใด
ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้นประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ
ดังนี้
วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
การสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชน
ปิยธิดา
ตรีเดช (2543 : 49) ได้กล่าวถึงการดำเนินการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนของชุมชนต่างๆ
เช่น เทศบาลเมืองนครสวรรค์
ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
4.1 การเตรียมความพร้อมของชุมชน
โดยการให้ความรู้และกระตุ้นรายครัวเรือนให้ประชาชนเห็นความสำคัญของโครงการหรือกิจกรรม
4.2 การจัดตั้งชุมชนเพื่อการพัฒนา โดยรวมชุมชนที่มีความพร้อมและยินดี
เข้าร่วมโครงการ
4.3 การจัดตั้งศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน
4.4 การระบุปัญหาของชุมชนและการทำกิจกรรม
4.5 การประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการชุมชนและเทศบาล
เพื่อแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นและนำเสนอปัญหาของชุมชนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชน
การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญเพราะการที่ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในลักษณะของการร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ
ร่วมวางแผน
ร่วมปฏิบัติร่วมกับผลประโยชน์และร่วมติดตามผลนั้น นับเป็นกระบวนการที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาสนองตอบความต้องการของตนและชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้ (กรมการปกครองและสำนักงานความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาแห่งประเทศเดนมาร์ก. ม.ป.ป. : 6) ช่วยให้ประชาชนยอมรับโครงการมากขึ้น
เพราะเป็นโครงการที่ตรงกับปัญหาและความต้องการของประชาชน ประชาชนจะมีความรู้สึกผูกพัน รู้สึกเป็นเจ้าของโครงการมากขึ้น การดำเนินโครงการราบรื่น
ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากขึ้นและโครงการจะให้ประโยชน์แก่ประชาชนมากขึ้นและมีการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนามากขึ้น ตลอดจนช่วยพัฒนาขีดความสามารถของประชาชนมากขึ้น
วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชน
Cohen and Uphoff
(1977 : 7-26) ได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งเสริมในการมีส่วนร่วมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยพิจารณาเป็น
2 ประเด็น คือ
2.1 พิจารณากิจกรรมการมีส่วนร่วม
ว่าทำอะไรบ้าง ใครเป็นผู้นำ และทำด้วยวิธีการอย่างไร ซึ่ง Cohen and Uphoff
กล่าวว่า
การมีส่วนร่วมดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐาน
3 มิติดังนี้
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ความหมายของการมีส่วนร่วมของประชาชน
การส่วนร่วมของประชาชน หมายถึง
กระบวนการที่ประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำเนินงานพัฒนาการร่วมคิด การร่วมตัดสินใจและการแก้ปัญหาร่วมกันด้วยความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกับวิทยาการที่เหมาะสม
ตลอดจนสนับสนุนติดตามผลการปฏิบัติงานขององค์กรเจ้าหนาที่ที่เกี่ยวข้อง (เออร์วิน. 1976 : 138;
อ้งถึงใน สุรเดช มาสินทพันธ์. 2545
: 18)
ส่วนจักรพงษ์ ทองเพ็ชร์
(2539 : 14) ได้กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชน
หมายถึงการที่ประชาชนในสังคมหรือชุมชนได้เข้าไปร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอนในกิจกรรมต่างๆ
ทั้งกิจกรรมที่รัฐบาลหรือองค์กรต่างๆ จัดให้มีขึ้นหรือกิจกรรมที่ประชาชนในชุมชนนั้นร่วมกันคิดขึ้นมาเอง เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนในชุมชนนั้นให้ดีขึ้น อันจะนำไปสู่วิวัฒนาการของการปกครองตนเองในอนาคตของชุมชนนั้นต่อไป
ทั้งกิจกรรมที่รัฐบาลหรือองค์กรต่างๆ จัดให้มีขึ้นหรือกิจกรรมที่ประชาชนในชุมชนนั้นร่วมกันคิดขึ้นมาเอง เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนในชุมชนนั้นให้ดีขึ้น อันจะนำไปสู่วิวัฒนาการของการปกครองตนเองในอนาคตของชุมชนนั้นต่อไป
วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชน
แนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในฐานะที่เป็นสาระสำคัญต่อความสำเร็จของการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ
สังคมและวัฒนธรรมหรือในด้านอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นระดับชาติ ระดับท้องถิ่น
และระดับชุมชนนั้น มิใช่ของใหม่
แต่เป็นเรื่องที่พยายามทำกันมาหลายทศวรรษแล้ว
กระแสแนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น เกิดจากปัญหาและความล้มเหลวในการดำเนินงานพัฒนาในอดีตซึ่งเน้นและให้ความสำคัญกับบทบาทของคนภายนอกชุมชน โดยละเลยศักยภาพและความสามารถของคนในชุมชน ทำให้การพัฒนาไม่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของคนในชุมชนนั้น
นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันอีกด้วย ดังนั้น
จึงไม่มีการเคลื่อนไหวและหันมาทบทวนประสบการณ์การพัฒนาที่ผ่านมาจึงทำให้ได้ข้อสรุปว่า ประชาชนควรจะเป็นผู้กำหนดเป้าหมายสุดท้ายของการพัฒนา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการพัฒนานั้น
ประชาชนควรจะได้เข้าไปมีส่วนในการวิเคราะห์ปัญหาและแสวงหาทางออกด้วยตัวเขาเอง ทั้งการตัดสินใจและประเมินผลด้วยตนเองว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร (อรพินท์ สุทธิพันธ์. 2533 : 25)
แนวคิดเกี่ยวกับความรู้
ความรู้ (Knowledge)
ในทัศนะของฮอสเปอร์นับว่าเป็นขั้นแรกของพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการจดจำ
ซึ่งอาจจะโดยการนึกได้ มองเห็น ได้ยิน หรือ ได้ฟัง ความรู้นี้
เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการเรียนรู้ โดยประกอบไปด้วยคำจำกัดความหรือความหมาย
ข้อเท็จจริง ทฤษฎี กฎ โครงสร้าง วิธีการแก้ไขปัญหา และมาตรฐานเป็นต้น
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ความรู้เป็นเรื่องของการจำอะไรได้ ระลึกได้
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อนหรือใช้ความสามารถของสมองมากนัก ด้วยเหตุนี้
การจำได้จึงถือว่าเป็น กระบวนการที่สำคัญในทางจิตวิทยา
และเป็นขั้นตอนที่นำไปสู่พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเข้าใจ
การนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินผล
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ได้ใช้ความคิดและความสามารถทางสมองมากขึ้นเป็นลำดับ
ส่วนความเข้าใจ (Comprehension) นั้น ฮอสเปอร์ ชี้ให้เห็นว่า
เป็นขั้นตอนต่อมาจากความรู้
โดยเป็นขั้นตอนที่จะต้องใช้ความสามารถของสมองและทักษะในชั้นที่สูงขึ้น
จนถึงระดับของการสื่อความหมาย ซึ่งอาจเป็นไปได้โดยการใช้ปากเปล่า ข้อเขียน ภาษา
หรือการใช้สัญลักษณ์ โดยมักเกิดขึ้นหลังจากที่บุคคลได้รับข่าวสารต่างๆ แล้ว
อาจจะโดยการฟัง การเห็น การได้ยินหรือเขียน
แล้วแสดงออกมาในรูปของการใช้ทักษะหรือการแปลความหมายต่างๆ เช่น
การบรรยายข่าวสารที่ได้ยินมาโดยคำพูดของตนเองหรือการแปลความหมายจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่ง
โดยคงความหมายเดิมเอาไว้ หรืออาจเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อสรุปหรือการคาดคะเนก็ได้
(วิกิพีเดีย. 2550)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)