วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

มาตรวัดการมีส่วนร่วม


                     สำหรับมาตรวัดการมีส่วนร่วมนั้น  Chapin  F Staut ( อ้างใน  เธียรชัย  บูรพชนก, 2532 ) ได้สร้างแนวทางและวิธีการวัดการมีส่วนร่วมทางสังคมโดยใช้หลักและลักษณะการมีส่วนร่วมมากน้อย  ซึ่งมีการให้คะแนนมากน้อยต่างกัน  โดยถ้าเป็นสมาชิกให้  1  คะแนน  การเข้าร่วมกิจกรรม  2  คะแนน  การออกเงิน 3  คะแนน การเป็นคณะกรรม  4  คะแนน และเป็นประธานให้  5  คะแนน

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รูปแบบของการมีส่วนร่วม


                        ไพรัตน์  เตชะรินทร์ (2527)  ได้จัดประเภทและรูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาระดับต่างๆ ดังนี้
                                1.องค์กรประชาชนที่มีขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ โดยกลุ่มประชาชนที่สนใจด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม โดยมีการรวมตัวในกลุ่มขนาดเล็กเพื่อร่วมทำประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น รูปแบบอาสาสมัคร กลุ่มสตรี กลุ่มออมทรัพย์ ฯลฯ
                                2.องค์กรประชาชนที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ โดยมีการจดทะเบียนตามกฎหมายในรูปของสมาคม มูลนิธิ สหกรณ์ ซึ่งจะมีการดำเนินงานตามบทบาทและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
                                3.ตัวแทนบุคคลหรือเอกชนที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการต่างๆ 

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความสำคัญของการมีส่วนร่วม


Hapgood, David (อ้างใน อนงค์   พัฒนจักร, 2535) ได้กล่าวถึงสาระสำคัญของการมีส่วนร่วมไว้ 3 ประการ คือ
                                 1.เป็นการให้การศึกษาแก่ประชาชน เพื่อให้นำความรู้และข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไปสู่ประชาชนด้วนตนเอง ถือเป็นการลดช่องว่างในการสื่อสารความเข้าใจและความร่วมมือ ตลอดจนสามารถช่วยให้ประชาชนเลียนแบบ ดัดแปลงและสร้างสรรค์การพัฒนาด้วยตนเอง
                                2.เป็นการจัดโครงการพัฒนาเพื่อให้เป็นแบบจำลอง แบบฝึกหัดแก่ประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตในชนบท ในรูปแบบการสะท้อนชีวิตที่ใกล้ตัวของประชาชน จนทำให้มองเห็นถึงประโยชน์การมีส่วนร่วม

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความหมายของการมีส่วนร่วม


สำหรับแนวคิดการมีส่วนร่วม  (Participation )   นั้นมีมานานแล้ว  ถือเป็นหลักการพัฒนาแนวใหม่ที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยมนุษย์  ได้มีนักวิชาการและผู้รู้หลายท่านให้ความหมายไว้ดังนี้
  United  Nations  ( อ้างใน  สุพรชัย   มั่งมีสิทธิ์, 2535 )  ให้ความหมายของการมีส่วนร่วมของประชาชน ว่า เป็นการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างกระตือรือร้น ทำให้มีพลัง เริ่มตั้งแต่กระบวนการตัดสินใจ เพื่อกำหนดเป้าหมายทางสังคมในการจัดการทรัพยากร เพื่อให้บรรลุเป้า-หมาย และปฏิบัติตามแผนงานโครงการต่างๆ
  ยุวัฒน์  วุฒิเมธี  (2524)  ให้ความหมายไว้ว่า เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมาร่วมคิด ริเริ่ม ร่วมพิจารณาในการตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติและร่วมรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ อันมีผลกระทบถึงตัวประชาชนเอง ซึ่งในการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชนบทนั้น ผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องยอมรับปรัชญาที่ว่า มนุษย์ทุกคนปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเป็นสุข ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และต้องยอมรับโดยบริสุทธิ์ใจว่า มนุษย์นั้นสามารถพัฒนาได้ถ้ามีโอกาส และได้รับการชี้แนะอย่างถูกต้อง

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนวคิดการมีส่วนร่วม


  แนวคิดการมีส่วนร่วมนั้นรัฐเริ่มมีการนำมาใช้เนื่องจากความล้มเหลวของการพัฒนาประเทศในอดีตที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาร่วมรับรู้  ริเริ่ม วางแผนหรือประเมินผล  ทำให้ประชาชนเฉยเมยต่อโครงการต่างๆ (ภูมิธรรม   เวชยชัย, 2528 ) และไม่มีความรู้ศึกเป็นเจ้าของ  ทำให้ผลการพัฒนาที่ผ่านมาไม่ยั่งยืน (ประพนธ์  ปิยรัตน์, 2534 )

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนวทางสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน


วรวิทย์  อวิรุทธ์วรกุล  (2544 : 66)  ได้กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้าง
การมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรชุมชนในการพัฒนาชุมชน  ดังนี้
          7.1  กิจกรรมการพัฒนาใด ๆ ของชุมชนจะต้องเริ่มจากประชาชนที่จะเป็นผู้ริเริ่มเนื่องจากเป็นผู้รู้ปัญหาของชุมชนและความต้องการของตนเองมากที่สุด
          7.2  การมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดกิจกรรมในการพัฒนาต้องอาศัย
การมีส่วนร่วมของสมาชิกของชุมชน  ในรูปองค์กรชุมชน
          7.3  ประชาชนควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมในทุกขั้นตอนให้มากที่สุด
          7.4  ภาครัฐและภาคเอกชน  ควรส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาของประชาชน
เพื่อเพิ่มศักยภาพ  พัฒนาขีดความรู้และทักษะในการแก้ไขปัญหาของชุมชนได้
               กล่าวโดยสรุปได้ว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้นมีขั้นตอนที่สำคัญ   5  ขั้น คือ
                        1)  การมีส่วนร่วมในการค้นหาสาเหตุของปัญหา
                        2)  การมีส่วนร่วมในการคิดและเสนอแนวทางการดำเนินงาน
                        3)  การมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม  
                        4)  การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์  
                        5)  การมีส่วนร่วมในการประเมินผล  

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน


สมเดช สิทธิพงศ์พิทยา (2544 : 25)  แบ่งระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็น 6 ระดับ  คือ
                                6.1  การไม่มีส่วนร่วม หมายถึง บุคคลนั้นไม่มีส่วนร่วมเลย หรืออาจมีส่วนร่วม
โดยถูกบังคับ                       
                                6.2  การมีส่วนร่วมน้อยมาก  หมายถึง  การมีส่วนร่วมที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจแต่เข้าร่วมเพื่อมุ่งหวังค่าจ้างหรือรางวัลตอบแทน
                                6.3  การมีส่วนร่วมน้อย  หมาย  การร่วมรับทราบการดำเนินงานของโครงการพัฒนาต่าง ๆ โดยอาจร่วมมือและให้ความสนับสนุนบ้างบางกรณี
                                6.4  การมีส่วนร่วมปานกลาง  หมายถึง  การเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นหรือแสดงปัญหาความต้องการต่อที่ประชุมรวมถึงการถูกสัมภาษณ์
                                6.5 การมีส่วนร่วมมาก  หมายถึง  การเข้าร่วมติดสินใจ  รวมทั้งร่วมดำเนินงาน 
และประเมินผลโครงการ

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ขั้นตอนการมีส่วนร่วมของประชาชน


ส่วนของขั้นตอนการมีส่วนร่วมนั้น Cohen  and Uphoff (1977 : 38-40) ได้กล่าวว่าในการทำความเข้าใจกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น  จะต้องพิจารณาว่า
                        5.1  การมีส่วนร่วมนั้นอยู่ในขั้นตอนใด  ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้นประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชน


                                 ปิยธิดา  ตรีเดช (2543 :  49)  ได้กล่าวถึงการดำเนินการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนของชุมชนต่างๆ เช่น เทศบาลเมืองนครสวรรค์  ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
                                4.1 การเตรียมความพร้อมของชุมชน  โดยการให้ความรู้และกระตุ้นรายครัวเรือนให้ประชาชนเห็นความสำคัญของโครงการหรือกิจกรรม
                                4.2  การจัดตั้งชุมชนเพื่อการพัฒนา  โดยรวมชุมชนที่มีความพร้อมและยินดี
เข้าร่วมโครงการ
                                4.3  การจัดตั้งศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน
                                4.4  การระบุปัญหาของชุมชนและการทำกิจกรรม
                                4.5  การประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการชุมชนและเทศบาล เพื่อแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นและนำเสนอปัญหาของชุมชนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชน


การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญเพราะการที่ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในลักษณะของการร่วมคิด  ร่วมตัดสินใจ  ร่วมวางแผน  ร่วมปฏิบัติร่วมกับผลประโยชน์และร่วมติดตามผลนั้น  นับเป็นกระบวนการที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาสนองตอบความต้องการของตนและชุมชนอย่างแท้จริง  ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้  (กรมการปกครองและสำนักงานความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาแห่งประเทศเดนมาร์ก.   ... : 6)  ช่วยให้ประชาชนยอมรับโครงการมากขึ้น เพราะเป็นโครงการที่ตรงกับปัญหาและความต้องการของประชาชน  ประชาชนจะมีความรู้สึกผูกพัน  รู้สึกเป็นเจ้าของโครงการมากขึ้น  การดำเนินโครงการราบรื่น ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากขึ้นและโครงการจะให้ประโยชน์แก่ประชาชนมากขึ้นและมีการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนามากขึ้น ตลอดจนช่วยพัฒนาขีดความสามารถของประชาชนมากขึ้น

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชน


                        Cohen  and  Uphoff  (1977 : 7-26)  ได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งเสริมในการมีส่วนร่วมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยพิจารณาเป็น 2 ประเด็น คือ
                                2.1  พิจารณากิจกรรมการมีส่วนร่วม ว่าทำอะไรบ้าง  ใครเป็นผู้นำ  และทำด้วยวิธีการอย่างไร  ซึ่ง  Cohen  and Uphoff  กล่าวว่า  การมีส่วนร่วมดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐาน  3  มิติดังนี้

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ความหมายของการมีส่วนร่วมของประชาชน


การส่วนร่วมของประชาชน หมายถึง  กระบวนการที่ประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำเนินงานพัฒนาการร่วมคิด การร่วมตัดสินใจและการแก้ปัญหาร่วมกันด้วยความคิดสร้างสรรค์  ร่วมกับวิทยาการที่เหมาะสม  ตลอดจนสนับสนุนติดตามผลการปฏิบัติงานขององค์กรเจ้าหนาที่ที่เกี่ยวข้อง  (เออร์วิน.   1976 : 138;   อ้งถึงใน สุรเดช มาสินทพันธ์.    2545 : 18)
                        ส่วนจักรพงษ์  ทองเพ็ชร์  (2539 : 14)  ได้กล่าวว่า  การมีส่วนร่วมของประชาชน หมายถึงการที่ประชาชนในสังคมหรือชุมชนได้เข้าไปร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอนในกิจกรรมต่างๆ
ทั้งกิจกรรมที่รัฐบาลหรือองค์กรต่างๆ จัดให้มีขึ้นหรือกิจกรรมที่ประชาชนในชุมชนนั้นร่วมกันคิดขึ้นมาเอง เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนในชุมชนนั้นให้ดีขึ้น อันจะนำไปสู่วิวัฒนาการของการปกครองตนเองในอนาคตของชุมชนนั้นต่อไป

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชน


                   แนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในฐานะที่เป็นสาระสำคัญต่อความสำเร็จของการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านการเมือง  เศรษฐกิจ  สังคมและวัฒนธรรมหรือในด้านอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นระดับชาติ  ระดับท้องถิ่น  และระดับชุมชนนั้น  มิใช่ของใหม่  แต่เป็นเรื่องที่พยายามทำกันมาหลายทศวรรษแล้ว  กระแสแนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น  เกิดจากปัญหาและความล้มเหลวในการดำเนินงานพัฒนาในอดีตซึ่งเน้นและให้ความสำคัญกับบทบาทของคนภายนอกชุมชน  โดยละเลยศักยภาพและความสามารถของคนในชุมชน  ทำให้การพัฒนาไม่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของคนในชุมชนนั้น นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่มีการเคลื่อนไหวและหันมาทบทวนประสบการณ์การพัฒนาที่ผ่านมาจึงทำให้ได้ข้อสรุปว่า  ประชาชนควรจะเป็นผู้กำหนดเป้าหมายสุดท้ายของการพัฒนา  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการพัฒนานั้น  ประชาชนควรจะได้เข้าไปมีส่วนในการวิเคราะห์ปัญหาและแสวงหาทางออกด้วยตัวเขาเอง  ทั้งการตัดสินใจและประเมินผลด้วยตนเองว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร  (อรพินท์  สุทธิพันธ์.   2533 : 25)

แนวคิดเกี่ยวกับความรู้


                   ความรู้ (Knowledge) ในทัศนะของฮอสเปอร์นับว่าเป็นขั้นแรกของพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการจดจำ ซึ่งอาจจะโดยการนึกได้ มองเห็น ได้ยิน หรือ ได้ฟัง ความรู้นี้ เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการเรียนรู้ โดยประกอบไปด้วยคำจำกัดความหรือความหมาย ข้อเท็จจริง ทฤษฎี กฎ โครงสร้าง วิธีการแก้ไขปัญหา และมาตรฐานเป็นต้น ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ความรู้เป็นเรื่องของการจำอะไรได้ ระลึกได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อนหรือใช้ความสามารถของสมองมากนัก ด้วยเหตุนี้ การจำได้จึงถือว่าเป็น กระบวนการที่สำคัญในทางจิตวิทยา และเป็นขั้นตอนที่นำไปสู่พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเข้าใจ การนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินผล ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ได้ใช้ความคิดและความสามารถทางสมองมากขึ้นเป็นลำดับ ส่วนความเข้าใจ (Comprehension) นั้น ฮอสเปอร์ ชี้ให้เห็นว่า เป็นขั้นตอนต่อมาจากความรู้ โดยเป็นขั้นตอนที่จะต้องใช้ความสามารถของสมองและทักษะในชั้นที่สูงขึ้น จนถึงระดับของการสื่อความหมาย ซึ่งอาจเป็นไปได้โดยการใช้ปากเปล่า ข้อเขียน ภาษา หรือการใช้สัญลักษณ์ โดยมักเกิดขึ้นหลังจากที่บุคคลได้รับข่าวสารต่างๆ แล้ว อาจจะโดยการฟัง การเห็น การได้ยินหรือเขียน แล้วแสดงออกมาในรูปของการใช้ทักษะหรือการแปลความหมายต่างๆ เช่น การบรรยายข่าวสารที่ได้ยินมาโดยคำพูดของตนเองหรือการแปลความหมายจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยคงความหมายเดิมเอาไว้ หรืออาจเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อสรุปหรือการคาดคะเนก็ได้  (วิกิพีเดีย.   2550)